วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

REVIEW ของฟรีจาก SEPHORA

กี้กลับมาแบบนี้ก็ของฟรีอีกแหละ 555555
คือของฟรีเนี้ย สาวๆที่ไหนก็ชอบทั้งนั้นแหละเนอะ
สงสัยกันอ่ะดิ ว่าของฟรีที่บอกนะ ได้มายังไงกัน 

ของฟรีที่ว่านี้ได้มาง่ายแสนง่าย 
เพียงแค่ช้อปของอะไรก็ได้ใน SEPHORA
เราก็ได้สมัครสมาชิกฟรีๆ พร้อมสะสมคะแนนและช้อปของภายในร้านลด10%

แล้วมันเกี่ยวยังไงนะเหรอ??
ก็เพราะว่าเราเป็น MEMBER เนี้ยแหละคะ
เลยทำให้เราได้ของฟรี!!!!

ทาง SEPHORA เค้าก็ส่งอีเมลมาหาเราแล้วแสดงข้อความ welcome และบอกว่ามีของขวัญขอมอบให้


OMG !!!!!!

มันดีมากกกกกกอ่ะ จริงๆแล้วกี้เป็นคนไม่ค่อยเปิดอีเมลดูนะ แต่นึกครึมอะไรไม่รู้ เปิดดูแล้วก็ตาลุกวาวเลย 55555 คือถ้าไม่เปิดดูนะร้องไห้เลย เพราะมันมีวันหมดอายุด้วยดิ

อีเมลนี้ที่ส่งมาก็เป็นอันที่แสดงโชว์เฉยๆ 
เอาไปใช้กันไม่ได้น้า เพราะว่าเค้าจะเช็คจากบัตรสมาชิกตอนที่ยื่นรับของ

อย่ารอช้าไปรับกันเลย


จากนั้นเราก็พุ่งงงงงตัวไปที่เค้าเตอร์จ่ายเงินแล้วแจ้งรับของ WELCOME คือมันดี๊ดีตรงเราไม่จำเป็นต้องช้อปอีกครั้งเพื่อที่จะได้ของ แค่โชว์อีเมลแล้วยื่นบัตรให้พี่พนักงานสแกนบัตรรับของ


ได้มาแล้ว มันคือ MASK สีเหลืองของ sephora ถึงจะเป็นของฟรีแต่เค้าก็ใส่ถุงกระดาษมาให้ด้วย ให้ความรู้สึกใส่ใจมากๆ



หืมมมมมมม ทำไมน่ารักแบบนี้ มุ้งมิ้งดีใจฟุดๆ

มาดูของกันดีกว่าเจ้ามาร์คสีเหลืองนี้คืออะไร


GINSENG MASK มันคือ โสม!! นั้นเอง



นี้อยากรีบบบบบกลับไปมาร์คหน้านอนเลยดิ


อยากได้แล้วล่ะสิ
รีบไปช้อปกันก่อนเร็วววววววว แล้วอย่าลืมเช็คอีเมลจาก SEPHORA ด้วย ไม่งั้นจะเสียใจ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนน้า :)
อยากให้มาอัพเดทเรื่องไหนก็ไปคุยกันที่ 
FB Page CookiexClumble
หรือจะไปฟอล IG k_twentyone กันได้น้า

บึยๆบุยๆ :))))))

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

REVIEW ~ ตรวจผิวหน้ากับ SK-II

ฮาโหลววววววววว
เนื่องด้วย เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนๆ55555
ได้ไปดู elle fashion week ก่อนเข้าดูโชว์
ก็เดินเล่นดูบูธต่างๆ หน้างาน
เดินไปถือเบียดื่มไป ก็สะดุดที่บูธ SK-II 5555 ไม่ใช่ล้าวววว ตั้งใจเข้าไปดูสิ เค้ามีสินค้าใหม่มาแนะนำ
จากการคุยกับพนักงานหนุ่ม เค้าก็ได้แจกบัตร ตรวจสภาพผิวหน้า พร้อมรับผลิตภัณฑ์ตัวอย่างจาก SK-II มูลค่า 1400 บาท ตาลุกวาววววสิยูวววววว 

ด้วยความนิ่งนอนใจ ก็ปล่อยเวลาเลยเถิดมาวันสุดท้ายเชียว 5555 ในบัตรเขียนว่าหมด 30 กันยายน 2558 หืมมมม ก็ต้องรีบมาแล้วล่ะ ลาสสสสสเดย์!!!


ในบัตรก็ระบุว่า ต้องสาขา ZEN เท่านั้นนะ! 



เมื่อเจอพี่พนักงาน เค้าก็ทำการถ่ายรูปตรวจสภาพผิวหน้ากี้เลย ด้วยเครื่องสุดไฮเทคจาก เอสเคทู 


พอยกขึ้นมา ก็จะมีกล้องและไฟส่องสว่าง


ก่อนจะถ่ายเค้าก็อธิบายว่า จะเป็นการตรวจสอบวัดผิวหน้าจากจำนวนสาวๆที่มีอายุและสีผิวคล้ายคลึงกับเราจำนวน 100 คน แล้วก็จะวิเคราะห์ออกมาว่าสภาพผิวหน้าของเราว่ามีความชุ่มชื้น ละเอียด บลาๆ เป็นกี่ % จาก100% หูวววววว กลัวเลยดิ55555


นี้ก็มาแบบมีเครื่องสำอางค์เล็กน้อย 5555555 (น้อยแล้วจริงๆ)

หลังจากที่ถ่ายหน้าด้านข้างตรวจแล้วก็จะออกมาแบบนี้


ความสยองจากกล้อง555555 คมชัดมาก
พี่พนักงานน่ารักกกกกก บอกว่า หน้ากี้มีความละเอียดมากเลยนะ 

พอถ่ายเสร็จเจ้าเครื่องตัวนี้ก็จะทำการวิเคราะห์ผิวหน้าเราว่าเป็นยังไงบ้าง


ผลที่ออกมา ก็อยู่ในระดับที่ดี เกิน 50% 
เรื่องที่ดีที่สุดบนผิวหน้ากี้คือ ความละเอียดตามที่พี่พนักงานได้พูดตั้งแต่ตอนแรกจริงๆ

เรื่องอื่นก็ตามรูปเลย55 แต่ก็ยังไม่ดีมากนัก เพราะพี่พนักงานบอกว่าเราต้องได้เกิน 80% ถึงจะดี

ฮือออแแแ บำรุงหนักๆเลยดิงั้น5555555

ยังไม่พอคะ เครื่องมันยังคำนวนอายุของผิวให้อีกว่าตอนนี้ผิวหน้าเราอยู่ในระดับอายุเท่าไหร่


จากอายุจริง 25 ผลมันก็ออกมาได้น่าพอใจมากคะ 555555 ประมวลออกมาได้ 20 ปี

จุดพลุคะ ปังๆๆๆๆ 

จากการที่ได้เช็คผิวหน้าเราแล้ว ก็จะรู้ได้ว่าจุดไหนที่เราควรจะเน้นเป็นพิเศษ 

เมื่อเราตรวจเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลารับของทดลองใช้สำหรับผิวหน้าเรา


น่ารักเลอค่ามาก คิคิ

จากนั้นพี่เค้าก็อธิบายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เราได้รับว่ามีอะไรบ้าง และใช้ยังไงให้ได้ผลที่ดีที่สุด


เจ้า 2 ตัวนี้ก็เป็นผลิตภัณฑ์ขายดีของ SK-II
เหมาะกับการพกไปใช้นอกสถานที่มากไซส์นี้

สำหรับคนที่อยากทดสอบเช็คสภาพผิวหน้า
พี่พนักงานก็บอกว่ามาทดลองได้เลยนะคะ น่ารักมากๆ พี่เค้าน่ารักกันเองมากๆ สอบถามได้หมดเลยว่าเราควรใช้อะไรดี หรือสามารถอแดปใช้ผสมกับผลิตภัณฑ์ที่เรามีอยู่แล้วได้ด้วย

ฮิฮิ จบๆ แค่นี้กับการตรวจสภาพผิวหน้า
(=´∀`)人(´∀`=)

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

how to สีผมฟรุ้งฟริ้งสายรุ้ง

สืบเนื่องจากมีน้องรีเควสสสอยากได้ผมแบบสาวเกาหลี
ก็เลยจัดให้มาลุยกันสักหน่อย
แต่ถามว่าชำนาญมั้ย??? ก็บอกเลยว่าไม่ ที่ผ่านมากี้ก็เคยทำผมมาแล้วหลายแบบ แต่อันนี้มันแอบยาก ตรงที่จะทำยังไงให้ออกมาสวยฟรุ้งฟริ้งตามเรฟของน้อง


สำหรับการทำสีผมครั้งนี้ ก็ไม่ได้เครียดอะไรมากเลย 55555 แค่บอกไปว่าถ้าไม่เหมือนก็เอาให้สวยสุดนะ

เรามาดูสภาพผมเดิมๆกันหน่อย


สีผมนี้กี้ได้เคยทำการย้อมเป็นสีเทาบลอนสว่างไปแล้ว แต่ด้วยการใช้เจ้าน้ำยาสระผมไม่ถูกวิธีเลยมีอาการด้างเล็กน้อย (น้ำยาสระผมเคยบอกในหัวข้อเก่าแล้วววว) ผสมกับดื้อไปลงสีเองมารอบนึง 55555

ตรงนี้เราก็เริ่มจากการทำสีเข้มก่อน นั้นก็คือส่วนครึ่งบนของศรีษะ 


สีที่ลงนั้นจะเป็นสีเทาเข้มหรือแม่สีเทานั้นเอง
สีที่ได้ออกมาจะเป็นสีเข้มที่เวลาโดนแสงแล้วจะออกเทาหม่นๆ และเวลาลอกก็จะกลายเป็นสีออกหม่นน้ำตาลไปเรื่อยๆ คล้ายๆแบบที่คุณแพร แพรี่พายเคยทำ


ขั้นตอนต่อไปคือการปรับสภาพสีผมให้สว่างงง เพื่อที่จะลงสีสายรุ้ง 


เราจะกัดสีผมแค่ตรงช่วงปลายและสะบัดแปรงนิดหน่อยตรงช่วงรอยต่อของสีเข้ม จะทำให้สีผมดูกลืนกันสวยงามไม่แบ่งตัดจนเกินไป


เมื่อล้างน้ำยาออกมาแล้วนั้นก็จะได้ความสว่างขึ้นมาระดับนึง ลำดับต่อไปคือขั้นตอนสำคัญ นั้นก็คือการลงสีสัน

ขั้นตอนนี้จริงๆก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่เราจะต้องคิดแพทเทินการผสมผสานสีให้วางอยู่ในตำแหน่งไหนและอยากให้ช่อของแต่ละสีเล็กใหญ่แค่ไหน 5555 ขั้นตอนง่ายแต่ตอนทำนี้นั่งเครียดไปทำไป ใช้เวลายาวนานและหมดพลังงานไปมากคะ


เราจะใช้ฟรอยเป็นตัวช่วยการแบ่งช่อผมและอบผมในแผ่นเดียวเลย เพราะฟรอยนั้นมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความร้อนทำให้น้ำยาของสีผมแทรกซึมได้ไวววววว

เวลาผสมสีนั้นเราก็ลองเทสกับกระดาษดูก่อนว่าตอนที่ใกล้แห้งออกมาประมานไหน ถ้าเกิดว่าเราไม่แน่ใจก่อนจะลง ก็เป็นวิธีที่ทำกัน ตอนนั้นด้วย สนุกสนานกันไป555555


อยากจะใส่สีอะไรก็จัดมันลงไป ไหนๆก็สายรุ้งแล้ว ไม่ต้องไปกลัวอะไรทั้งสิ้น (´・Д・)」


ห่อกันไปจนกว่ามันจะหมดหัว เหนื่อยมากกกกกกับขั้นตอนนี้ กินเวลาสุดๆ เพราะเรามีแปรงเดียว55555 ต้องทำสีนึงให้เสร็จถึงจะทำอีกสีต่อได้ จากนั้นก็ปล่อบน้ำยาให้ทำงานไป 

ครึ่งชั่วโมงแล้วลองแกะสีมาเช็ค ถ้าได้ตามที่ต้องการแล้ว ก็ไปล้างงงงงเลย


กว่าจะเสร็จก็มืดแล้ววว สีอาจจะมีเพี้ยนบ้างเพราะใช้ไอโฟนถ่าย แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นที่พอใจอย่างมากกกกกกก 



ซูมกันหน่อยกับแสงแฟลช จะได้เห็นสีกันชัดๆ
ก็สวยงามสดใสน่ารัก เห็นแล้วก็ภูมิใจจจจจสุดๆ


รูปนี้คือสีผมที่ผ่านไปหลายวันแหละ ได้โดนการสระผมไปเป็นที่เรียบร้อย สีผมมีหลุดตามธรรรมชาติ แต่ก็จะค่อยๆเฟดไป ได้อารมณ์พาสเทลไปด้วยเลย 5555

ขั้นตอนก็ดูเหมือนจะไม่ยุ่งยาก แต่กินเวลาไปเกือบ 5 ชั่วโมงได้ (คิดว่านะคะ (-。-; ) )

อธิบายอุปกรณ์คร่าวๆกันหน่อย
รอบนี้สีพื้นผมหลักด้านบนและน้ำยากัด
กี้ใช้ยี่ห้อ Alfaparf ตัวสีเทาเข้มใช้ตัวผสม 6% และ น้ำยากัดใช้ 9%

ส่วนสีสันสดใส กี้ขอไม่กำหนดยี่ห้อนะคะ
แล้วแต่จะหากันตามสะดวกเลย เอาที่คิดว่าเคยใช้แล้วชอบหรืออะไรก็ได้
สีที่ใช้คือ แม่สี น้ำเงิน แดง เพราะ 2 สีนี้สามารถผสมออกมาได้หลายเฉดเลยตามแบบที่รูปเรฟเรามีมา

และที่สำคัญคือการใช้สี ค่อยๆบีบทีละนิดลงไปผสมกับน้ำยา9% ผสมทีละน้อยๆ ค่อยๆทำไปจะได้กะปริมาณของสีได้ 

ง่ายๆเลยเทน้ำยาผสมทีละน้อยๆจะได้ผสมได้หลายๆเฉด 
ถ้าเราใส่สีน้อยสีก็จะอ่อน ใส่เยอะสีก็จะชัดเข้ม

สำหรับคนที่ไม่ค่อยเข้าใจหลักการผสมสีนะค่ะ น้ำเงิน+แดงจะออกมาเป็นสีม่วง หลังจากนั้นอยากจะใฟ้ออกม่วงไหนมากกว่ากันก็ขึ้นอยู่กับการเติมแม่สรทีละนิดแล้วววว



(・ω・)ノ รอบนี้พอจะมีสาระดีๆมานำเสนอกันหน่อย ถ้าอ่านไม่เข้าใจก็ต้องขอโทษจริงๆ5555 จะพยายามเขียนให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่านี้ รูปปลากรอบอาจจะดูไม่ครบ เพราะทำเองถ่ายเอง มือนี้ไม่ว่างสุดๆ

จอบอ จบบบบบบบบบแล้วกับฮาวทูนี้นะยูวววว \(//∇//)\


ช่องทางติดตามกี้ สามารถไปสอบถามพูดคุยในเฟสได้นะคะ

Facebook COOKIEXCLUMBLE






วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เดินเท้าทัวร์ HARAJUKU (・ω・)ノ

ได้ฤกษ์งามยามดีมาอัพเดทบล๊อคกันหน่อย
เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้วได้เดินทางไปหน้าร้อนที่ประเทศญี่ปุ่น

ความร้อนก็ระดับไหม้ยิ่งกว่าเมืองไทยอีก
ฮึบๆ เรียกได้ว่าตอนกลับมาไทยแม่ทักว่าไหม่ขึ้นนะ 5555 แต่ในความร้อนของที่นี้ก็มีเรื่องดีๆให้เราได้เพลิดเพลินไปกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าขายของ ของกินต่างๆ
เค้าก็จะปรับเปลี่ยนไปตามฤดู 
แต่ที่เห็นจะอึ้งสุดๆก็คงต้องเป็น ice monster ที่เปิดใหม่และได้รับกระแสยอดนิยมอย่างดี มีคนต่อคิวยาวกันเลยทีเดียว
เสียดายไม่มีรูปปลากรอบบบ กรึบๆ เพราะตอนนั้นมัวแต่ถ่ายอัพเดทวิดีโอลงเฟสบุค \(//∇//)\

มาดูรูปตึกร้านค้ากันหน่อยดีกว่า


จากสถานี OMOTESANDO ที่กี้ออกมานั้นก็จะสามารถ ตอกแตกๆๆ ไปที่ฮาราจูกุได้ เราก็จะผ่านร้านขายของแบรนเนมมากมาย หรูหราไปหมดดดดดด ปิดตาห้ามมองเลย 5555 

ระหว่างเดินก็เหมือนการลงเขา เพราะแถวนี้มันคือ omotesando hill เดินขึ้นๆลงๆเขาให้ขาเล็กกกกกกกกไปเลยยยยดิ นี้มันมาออกกำลังกายชัดๆ



window display ที่นี้เค้าก็จะจัดได้น่าดึงดูดมาก ไปแต่ละครั้งก็ต้องไปเก็บภาพมาสักหน่อย 


ฝั่งตรงข้ามก็เป็นห้าง omotesando hills 


ข้ามถนนมาอีกฝั่งแวะซื้อน้ำใน LAWSON  หน่อย อากาศที่นี้มันทำให้หิวน้ำตลอดเวลาสุดๆ 


ปากทางเข้าซอยที่กี้เลือกเข้าไป จะเป็นเส้นทางใหญ่สามารถเดินทะลุไปถนน takeshita ได้ (ขออนุญาติยังไม่มีแผนที่นะ เพราะเดินด้วยความชินล้วนๆ แต่เดินหาไม่ยากเด่นฟุดๆ)

มาต่อที่รูป ทางเข้าจะมีตึก RALPH LAUREN สวยงามเด่นสุดๆ มากี่ทีก็ต้องถ่ายรูป 5555 ให้ฟิลเหมือนอยู่อิตาลี่ ฝรั่งเศสงี้ คิดไปเองมั้งไม่เคยไปประเทศอื่นเลย


เดินเข้ามาในซอยนิดเดียวเท่านั้นนนน ด้านซ้ายมือจะมีคาเฟ่รถเก๋ๆอยู่ ก็สไตล์ฝรั่งน่ารักดี เหมาะสำหรับคนอยากนั่งพักเท้าเมื่อยๆ


ร้านหนังสือชิคๆ ที่ก็มีอุปกรณ์ขายของสไตล์ minimal ขายอยู่ 


ชอบตึกนี้ แต่งได้ฟิลบีชๆดิบๆดี น่ารักฟุดๆ


ตอนนี้ที่เดินอยู่ก็เริ่มค่ำแล้ววว แสงจ้าอย่าเพิ่งหมดนู่ปรับกล้องไม่เก่ง 5555

ตึกที่ก็น่ารักไม่แพ้กัน MARC BY MARC JACOB ไม่เคยได้เข้าไปเลย รีบนะ (つД`)ノ
ตึกก็ดูคลีนๆสะอาดตาตามสไตล์ แต่มันเก๋ตรงข้างๆมันมีงานอาร์ตอยู่ มันดูเข้ากันแบบบอกไม่ถูกเลยดิ


ฮือๆ รูปไม่ค่อยชัดเลยคนถ่ายตาไม่ดีอยู่
ร้านนี้เป็นร้านที่ฝนั่งชอบมากกกก chichikaka チチカカ เป็นร้านสไตล์โบฮิมเมี่ยน ชนเผ่า 5555 บอกยากนะ จุดเด่นคือเจ้าอัลปาก้าาา ที่คอยต้อนรับด้านหน้า สีวันร้านนี้ก็ฉูดฉาดสดใส


ถัดมาก็เท่ห์เลย ร้านนี้ก็แมนๆคุยกัน แนวสตรีทสเกตบอร์ดไรงี้ หนุ่มๆสาวๆร้านนี้ก็เท่ห์สุดๆ
พ่อหนุ่มหมวกขาว เค้าก็เก็กเป็นใจตั้งนานแต่นูปนี้ชัดดีสุด555 คนญี่ปุ่นไม่ว่าจะชายหรือหญิง ก็จะชอบใส่หมวกสไตล์นี้กันฟุดๆ



มองย้อนกลับไปด้านที่เราเดินเข้ามา ฟิลมันช่างดีจริงๆ5555 


ร้านนี้เป็นร้านที่ต้องถ่ายไกลๆ เพราะที่ญี่ปุ่นเค้าก็มีข้อห้ามเรื่องถ่ายรูปนะ แบบคงกลัวจะก๊อปงานเค้าไป แต่ความยากแบบนี้ก็เลยทำให้มันพิเศษสุดๆ5555 สไตล์ของร้านก็เป็นแบบน่ารัก เปรี้ยวซ่า คิดว่าน่าจะเหมาะกับึกประมาณนี้สุดนะ พนักงานก็จะต้องแต่งหน้าทำผมให้เข้ากับร้านสุดๆ โมเอ้มากกกก


ร้านโปรดอีก1ร้านที่ต้องเข้าไปส่องให้ได้ jumble store ร้านขายของมือสอง ที่ส่วนมากก็จะเป็นแบรนภายในประเทศ แต่ก็จะมีของแบรนนอกปะปนกันไป จะแบ่งเป็น3 ชั้น คือ ชั้นล่างของผู้หญิง ชั้นบนและชั้นใต้ดินเป็นของผู้ชาย ภายในร้านก็เป็นของดีที่ต้องคุ้ยๆๆสุด 555


ร้านเสื้อผ้าที่นี้ส่วนมากก็จะเน้นการขายรองเท้าด้วย แต่ละร้านก็จะตกแต่งสไตล์แตกต่างกันไป แนวของเสื้อผ้าก็จะมีความหลากหลายยยยยมากสุด แต่ยิ่งพวกของเก่าวินเทจนะแพงมากกกกกกก


ร้านรองเท้าถึงจะมีของคล้ายๆกัน แต่แค่ฟิลร้านเปลี่ยน ก็ทำให้อยากเดินเข้าไปทุกร้านจริงๆ พวกของลิมิเตดขายหมดแล้วหายากบางทรก็ต้องลองเดินๆดู แต่ราคาก็ว่ากันไป ฮือๆ


ที่นี้เค้าชอบขี่จักรยานกันมาก การมีจักรยานเท่ห์ๆนี้ก็เสริมความหล่อกันไปได้อีกหลายสเตป เพราะราคานั้นก็ไม่ใช่เล่นจริงๆ ร้านแต่งจักรยานแถวนี้ต้องบอกเลยว่าพนักงานแซ่บมาก!!!!!! แต่จริงๆพนักงานเกือบทุกร้านนะ แซ่บบบบนัวสุดๆ55555 คือความเพลินจากการเดินดูของแล้วยังเพลินกับการดูหน้าตาของพนักงานไปอี๊กกกกก


ร้านขายของที่นี่เค้าก็จัดสรรแบ่งพื้นที่ใช้ร่วมกันได้ดีภายใน1ตึก นี้ก็เป็นจุดเด่นของร้านที่ญี่ปุ่น


มืดแล้ว ขาก็ล้าสุดๆแล้ว 55555 เดินข้ามฝั่ง takeshita แวะสตาร์บัคพักให้เย็นๆกันหน่อย
ราคากาแฟของที่นี้พอๆกันหมดไม่ว่าจะร้านไหน เจ๊นางเงือกบางทียังถูกกว่าเลย5555
ที่นี้ก็มีความพิเศษที่กี้รักมากกกกคือ free wifi จากสตาร์บัค สำหรับใครอยากโหลดอะไร เป็นสวรรค์เบาๆ (สามารถทำตามขั้นตอนได้ภายในแผ่นพับที่แจกภายในร้าน)

รูปทั้งหมดเป็นส่วนนึงของการเดินทาง ที่ถ่ายรูปมา ถ้าอยากจะดูมากกว่านี้ ก็ต้องหาเวลามาชมด้วยตาตัวเองกันหน่อยล้าวววว

วันนี้ขอปิดจ๊อบกันเท่านี้ก่อน ไว้วันไหนว่างๆ จะพาเที่ยวที่ไหนก็รอติดตามกันนะค่ะ (・◇・)/~~~